จากรัก จากใจ เตย

อาชีพทำเบเกอรีและออกแบบขนม มือรางวัลเหรียญทอง สวิตเซอร์แลนด์

เล่าโดย ปทุมพร คัพเพาล์

ขัดเกลา โดย นงลักษณ์ ใจสงฆ์ เทร็พพ์

==============

ดิฉัน ปทุมพร คัพเพาล์ ชื่อเล่นว่า “เตย” ค่ะ เกิดที่กรุงเทพฯแล้วไปโตที่จังหวัดร้อยเอ็ด ดิฉันย้ายตามคุณแม่ที่แต่งงานกับชาวสวิสมาอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ตอนอายุ 15 จบมัธยมต้นที่ประเทศไทยแล้วค่ะ

หกปีแรกอยู่ที่เมือง อะโรสา (Arosa) เป็นเมืองตากอากาศฤดูหนาวเล็กๆบนภูเขาในรัฐกริสันส์ แถบนั้นพูดภาษาเยอรมันเรียกว่ารัฐเกราบึนเดนค่ะ ช่วยกิจการของพ่อเลี้ยง ดูแลตึกอาคาร ทำความสะอาด ตรวจตราความเรียบร้อย หลังจากนั้นดิฉันพบรักและย้ายลงเขามาอยู่ที่เมืองคัวร์ (Chur) ด้วยกันค่ะ เมืองคัวร์เป็นเมืองหลวงของรัฐ และเป็นจุดเดินทางสำคัญคือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวชื่อก้องระดับโลก เช่น เส้นทางสายธารน้ำแข็ง นั่นแหละค่ะ (Glacier Express)

ดิฉันเข้าเรียนภาษาเยอรมันอยู่ 2 ปี พอพูดได้ อ่านออก เขียนได้ แต่ก็ไม่ได้เก่งมากมายอะไร หลังจากนั้นดิฉันเข้าเรียนการทำขนมต่างๆ ระบบการเรียนจะเป็นแบบที่ทางสวิตฯกำหนดสำหรับการเรียนอาชีพ ดิฉันเรียนแบบฝึกทำงานจริง 4 วัน แล้วต้องไปโรงเรียน 1 วัน เรียนวิชาที่เกี่ยวข้องกับอาชีพที่เรียนและวิชาทั่วไป เช่น ภาษา วิชาพื้นฐานความรู้ทั่ว ๆ ไปค่ะ อาทิตย์หนึ่งได้หยุดงานสองวันค่ะ

เวลาเข้างานของดิฉันคือจันทร์ถึงศุกร์ เริ่ม 5:00 น. ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ก็จะเริ่มตั้งแต่ 4:00 น.ถ้าเป็นที่เมืองไทยก็คือก่อนไก่โห่นั่นแหละค่ะ แต่สำคัญค่ะเพราะผลิตผลต่าง ๆ ต้องเสร็จใหม่ ๆ หอมกรุ่นตอนเช้าตรู่ก่อนอาหารเช้านะคะ และต้องเอาไปส่งให้ร้านค้าอื่น ๆ ทันเวลาเปิดร้านเช่นกันค่ะ ดิฉันมีเวลาพักทานอาหารเช้า 15 นาทีและเวลาเที่ยง 45 นาที เลิกงานตอน 14:30 น. ค่ะ

การทำงานแรก ๆ ก็งงมากคะ ลำบากนิดหน่อยค่ะ เราไม่มีประสบการณ์เลย การสื่อสารก็ค่อนข้างยาก เพราะบางคนใช้ภาษาเยอรมันกลาง บางคนใช้ภาษาถิ่นของสวิตฯค่ะ ลองคิดถึงว่าคนทำงานด้วยกันที่เมืองไทย คนหนึ่งพูดอิสาน อีกคนเว่าคำเมือง อีกคนแหลงไต้ อีกคนพูดภาษากลาง แต่ไม่นานก็ชินไปค่ะ


เวลาไปเข้าห้องเรียน เรียนร่วมกับเพื่อนนักเรียนเด็ก ๆ อายุ 15-16 ปี ตัวเองอายุ 20 ปีแล้ว ก็เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยค่ะ เพราะอายุไม่ได้ทำให้เราต่างกัน โชคดีที่เพื่อนเรียน “เด็ก ๆ” ในห้องที่เรียนด้วยกันทุกคนนิสัยดี พยายามช่วยดิฉันทุกอย่าง เพราะมีบางคำ บางศัพท์ ที่ดิฉันยังไม่เข้าใจลึกซึ้ง โดยเฉพาะศัพท์ภาษาสำหรับการเรียนและทำงาน

จำได้ว่าเดือนแรกที่ทำงานจริง ดิฉันร้องไห้เลยค่ะ อยากเลิกทำ เพราะเหมือนเราเปิดโลกใบใหม่ ที่เราไม่คุ้นเคย เราไม่รู้จัก ทุกอย่างมันดูยากไปหมด แต่ดิฉันโชคดี ได้กำลังใจดีมากมายจากครอบครัวและคู่ชีวิต ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

เมื่อปี 2012 (ปี พ.ศ. 2555) เป็นการเรียนปีสุดท้ายค่ะ ดิฉันได้รับโอกาสเข้าแข่งขันการทำช็อกโกแลตโชว์ระดับรัฐ และยังได้รับเหรียญทองกลับมาอีก!!! ก็เป็นสิ่งที่ภูมิใจมาก ๆ ที่สุดค่ะ สำหรับดิฉันซึ่งเป็นเด็กไทยที่ได้รับโอกาสเข้าเรียนเทียบเท่ากับเด็กในสวิตเซอร์แลนด์

พอเรียนจบแล้วก็ได้รับโอกาสจากที่ทำงาน ให้ทำงานต่อได้ คือที่ร้านกาแฟ แมร์ซ (Café Merz ขออนุญาตโฆษณาค่ะ) ดิฉันทำงานที่นั่นเป็นเวลา 5 ปี และได้มีโอกาสได้รับความไว้วางใจให้สอนเด็กที่เข้ามาเรียนใหม่ทุกปี เหมือนตัวดิฉันเองเรียนครั้งแรกเลยค่ะ ดิฉันทำงานและสอนเด็ก ๆ อีก 5 รุ่นเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังได้รับเกียรติจากหัวหน้า ไว้วางใจให้ร่วมคิดค้นสูตรและเสนอความคิด “ไอเดีย” ขนมใหม่ ๆ ต่าง ๆ และก็ได้ออกขายหน้าร้านเป็นประจำ เป็นช่วงเวลาที่ดิฉันมีความสุขมาก มีความสุขในการทำงานและภูมิใจมากที่ได้แสดงความสามารถของตัวเองจากการที่ได้เรียนรู้มา

ดิฉันฝันอยากมีร้านเล็ก ๆ ของตัวเอง จะที่สวิตเซอร์แลนด์ หรืออาจจะเป็นที่ประเทศไทยก็ได้ค่ะ อยากแสดงผลงานออกมาดี ๆ สวย ๆ งาม ๆ น่าทึ่ง ให้คนอื่นได้เห็น ได้ชิมลองรส และให้ตัวเองใด้มีความสุขกับผลงานที่ทำมาค่ะ

ปัจจุบันดิฉันเป็นแม่บ้าน คุณแม่ลูกสองค่ะ แต่ถ้ามีเวลาก็ยังมีโอกาสแสดงความสามารถ มีคนสั่งขนมเค้ก เพื่อน ๆ พี่ ๆ หลาย ๆ คนสนใจและอยากให้ทำให้เป็นพิเศษ ดิฉันก็ยังรับทำที่บ้านค่ะ และยังมีของไทย ๆ ที่ชอบทำอย่างนะคะ เช่น ซาลาเปา กะหรี่ปั๊บ ขนมปุยฝ้าย และอีกหลายอย่าง ให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ ได้ชิม ได้ลิ้มรสกัน

และถ้าลูกโตกว่านี้ ถ้ามีโอกาสดิฉันก็อยากกลับไปทำงานที่ตัวเองรักมาก ๆ อีกครั้งค่ะ

คำแนะนำต่อน้อง ๆ คนไทยที่ย้ายมาอยู่สวิตเซอร์แลนด์หรือยุโรปก็แค่ทำชีวิตให้มีความสุขนะคะ ถ้ามีโอกาสในการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน ก็ขอให้พยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ เพราะการเรียนรู้นั้นไม่มีวันสิ้นสุด ดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ ขอให้ทุกคนสู้ในวันที่ยากลำบาก ในวันที่ต้องเริ่มต้นใหม่ แต่ถ้าเราฝ่าฟันอุปสรรคผ่านพ้นไปใด้ ความสำเร็จก็ไม่ไกลเกินคะ

ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่รักมาก และอยากกลับไปทุก ๆ ปีเลยค่ะ มีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับไป อนาคตไม่มีอะไรแน่นอนแต่ตอนนี้อยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้ ดูแลลูก ๆ ดูแลครอบครัวให้ดีที่สุดก่อนค่ะ

Message us