หนีสามี-ผิดไหม (อิตาลี)

ข้อควรรู้และระวัง

#กฎหมายครอบครัวในอิตาลี

เคยมีน้องมาปรึกษาเพราะถูกสามีเก่าถล่มทลายเรื่องหนีไปนอนนอกบ้าน เนื่องจากน้องพลาดทำตามอารมณ์ไปแล้ว สามีไปแจ้งบันทึกประจำวันไว้แล้ว ก็แก้ยาก คนเสียเปรียบเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์มีเยอะมาก

เรื่องเช่นนี้ รู้ไว้ใช่ว่า กันไว้ดีกว่าแก้ เราควรมาศึกษาข้อกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องนี้กันหน่อย

หนึ่ง หนีสามีไปนอนนอกบ้าน 

หากภรรยาเป็นฝ่ายหนีออกไปและทิ้งลูกไว้กับสามี สามีสามารถฟ้องหย่าแบบไม่ต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้ภรรยาได้

แต่สามีไม่สามารถยัดเยียดลูกให้ภรรยาเลี้ยงคนเดียวได้ ศาลจะไม่ตัดสินให้คนที่ถูกตั้งข้อหาทิ้งเด็กต้องเป็นผู้ปกครองเด็ก นอกเสียจากว่าคำฟ้องแรก (ว่าทอดทิ้งลูก) ตกไป

กรณีที่คู่สมรสไม่มีลูกด้วยกัน การหนีไปนอนนอกบ้าน ไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจถูกฟ้องแยกทางเพราะทำผิดต่อครอบครัว! กติกาเท่าเทียม ใครเป็นผู้ทำคนนั้นก็ผิด! ถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่

กรณีถูกฟ้อง ฝ่ายผิดจะเสียเปรียบเทียบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าเลี้ยงดูหรือสิทธิการอยู่ในบ้านของครอบครัวจะขาดไป

ฉะนั้น หากใครคิดว่าตนเป็นฝ่ายถูกและน่าจะได้ค่าเลี้ยงดูจากอีกฝ่าย ก็ควรใช้สติแก้ปัญหา อย่าไปพลาดท่าใช้อารมณ์หุนหันพลันแล่นหนีออกจากบ้าน จะเป็นการผิดให้อีกฝ่ายฟ้องได้

แต่หากไม่มีทรัพย์สินจะแบ่งกันและทั้งคู่ตกลงสมัครใจจะหย่าโดยด่วนหลังจากที่ทั้งคู่ได้คุยกันแล้ว ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยากจะแยกตัวออกไปนอนที่อื่นก็ย่อมทำได้ไม่ผิด เพราะกรณีเช่นนี้ ไม่ได้เป็นการ “หนี” ต้องแยกสถานการณ์ให้ถูกด้วย

สอง ทิ้งลูกไว้กับสามี แต่ตัวไม่กลับบ้าน

#กรณีคู่สมรสมีบุตรผู้เยาว์หรือลูกพิการอยู่ที่ต้องดูแลร่วมกัน

การออกไปนอนนอกบ้านโดยพละการของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถือว่าเป็นการทอดทิ้งผู้เยาว์ ผิดต่อกฎหมายอาญามาตราที่ 591 อาจเป็นเหตุให้ใครก็ได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นคนในครอบครัว) สามารถไปแจ้งความได้ทันที

ตามบทบัญญัติ เจ้าหน้าที่ตำรวจรับคำแจ้งความแล้ว ต้องแจ้งให้ศาลคุ้มครองเด็กและเยาวชนรับทราบทันที

ศาลคุ้มครองเด็กฯจะส่งเรื่องไปยังสังคมสงเคราะห์เฉพาะทางให้มาลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และเขียนรายงานส่งศาล เพื่อ

นำไปตัดสินว่า ใครควรจะดูแลเด็กต่อไปอย่างไร

ผู้กระทำผิดเสี่ยงอะไรบ้าง?
– เสี่ยงไม่ได้ค่าเลี้ยงดูหากแยกทางกัน
– เสี่ยงถูกตัดสิทธิ์ปกครองบุตร
– เสี่ยงถูกศาลจำคุก 6 เดือน ถึง 5 ปี
– หากระหว่างที่ถูกทอดทิ้ง แล้วบังเอิญเด็กเป็นอะไรไป อาจถูกเพิ่มโทษติดคุกนานกว่ากำหนดทั่วไป

สาม ถ้ามีเหตุต้องไป ควรทำอย่างไรดี?

ทุกปัญหามีทางออกหากแต่ต้องรู้จักอดทนและเสียสละ ค่อย ๆ แก้ด้วยสติและปัญญา ถ้าไม่อยากเสียลูก

แต่ถ้าหากคิดว่าการทิ้งลูกให้อีกฝ่ายเลี้ยง และส่วนตัวเองขอไปต่อคนเดียวเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกแล้ว อย่างน้อยก็ควรจากไปด้วยดีและถูกต้องตามกฎหมายและหลักศีลธรรม จัดการจดทะเบียนแยกกันอยู่เสียให้เรียบร้อยก่อนจะไป จะได้ไม่มีคดีติดตัวและมีสิทธิ์กลับมาหาลูกอีกเมื่อไรก็ได้ บางที อาจพลิกล็อกกลับมารับลูกไปเลี้ยงก็ได้หากยังไม่ถูกตัดสิทธิ์ปกครองบุตร

ถ้าไม่สนใจเรื่องทรัพย์สินก็ทำได้ ไม่มีลูกผู้เยาว์ ไม่ผิดต่อกฎหมาย แต่จะเสียเปรียบเวลาฟ้องกัน ทางการจะถือว่าเราเป็นฝ่ายผิด

ในโพสต์นี้ แอดเน้นกรณีที่ “หนี” ไปนอนที่อื่น ที่ทำลงไปด้วยอารมณ์ล้วน ๆ หมายถึงไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า หรือไม่มีเหตุผลจำเป็นเร่งด่วนที่ฟังขึ้น

ผู้ชายก็ต้องระวัง กฎหมายเท่าเทียมกันทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชาย ถ้าผู้ชายเกเรไม่กลับมานอนบ้านโดยใช่เหตุ ก็เสี่ยงถูกภรรยาฟ้องได้ ถ้าเป็นเหตุแยกทางกัน ก็เสี่ยงที่จะเสียสิทธิเข้าบ้านด้วย

ถาม ถ้าได้บอกกล่าวล่วงหน้าด้วยคำพูดหรือข้อความให้รับรู้ และอีกฝ่ายอ่านหรือรับรู้แล้วแต่ไม่ตอบสนอง เราไปนอนข้างนอกด้วยเหตุจำเป็น เช่น ไปเยี่ยมเพื่อนต่างประเทศ หรือไปค้างที่ทำงานเพราะไกลบ้าน ถ้าสามีเอาอารมณ์มาตัดสิน เราจะผิดมากแค่ไหน

ตอบ
– บอกกล่าวล่วงหน้าแล้วสามีไม่เห็นด้วย นั่นคือปัญหาที่ต้องหาทางออกของทั้งสอง
– ไปเยี่ยมเพื่อนต่างประเทศไม่ถือว่าเป็นเหตุจำเป็น สามีมีสิทธิไม่ยินยอม
– ไปค้างที่ทำงานเพราะไกลบ้าน ถ้าสามีไม่เห็นด้วย ก็ต้องหาทางออกอื่น

ถาม เราแพ้ทุกข้อใช่ไหม เสียเปรียบทุกอย่างใช่ไหม มีทางออกอื่นไหม

ตอบ เหรียญมีสองด้าน ชีวิตคู่ก็เช่นกัน ต้องคุยกันเยอะ ๆ พบกันคนละครึ่งทาง คู่ไหนหาข้อตกลงไม่ได้ ชีวิตคู่ก็จะจืดจางไม่เป็นปรกติสุข แอดไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรคือแพ้หรือชนะในชีวิตคู่ แต่ละคู่ต้องปรับต้องจูนกันเอง คนนอกเข้ามามีบทบาทได้ก็ตอนที่มันจบแล้ว แค่เข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยในแง่กฎหมาย

ถาม ถ้ากรณี​ที่สามีไล่เราออก​จาก​บ้าน จะทำยังไง

ตอบ มีสิทธิอะไรมาไล่? ยังเป็นสามีภรรยากันอยู่หรือเปล่า? ถ้ายังเป็น ก่อนจะแยกบ้านกัน ต้องพากันไปจดทะเบียนแยกกันอยู่ก่อนให้เป็นเรื่องเป็นราว จะได้มึการบันทึกข้อตกลงกันไว้อย่างยุติธรรมและมีกฎหมายรองรับ

สุดท้าย ถ้าเราหมั่นเอาใจใส่ ศึกษาข้อกฎหมาย หาความรู้ใส่ตัวเรื่องสิทธิและหน้าที่ของเราในประเทศที่เราไปอาศัยไว้บ้าง ก็จะเป็นเครื่องมือช่วยเราตั้งสติและวางแผนได้เพื่อไม่ให้เป็นเบี้ยล่าง ตัดสินใจพลาด หรือเสี่ยงต่อการพรากเราพรากลูกไปจากกัน

ความรู้พาไปรอด ภาษาพาไปลิ่ว

Message us