เรื่องเล่าเงาชีวิตหญิงไทยในต่างแดน
เรื่องและภาพ โดย เพจเรื่องเล่าจากหย่งศรี
รู้ไว้ใช่ว่า หากคิดย้ายกลับประเทศไทย
สำหรับหลายคนที่พำนักอยู่ในต่างประเทศ เชื่อว่า “การย้ายกลับเมืองไทย” เป็นความฝันลึกๆ ในใจ
ฉันได้ไปเป็น moderator งานสัมมนา “เตรียมพร้อมกายใจ รับมือชีวิตใหม่จากการย้ายประเทศ” ของสมาคมธารา โดยเซสชั่นหนึ่ง ได้เชิญรุ่นพี่ซีเนียร์ 4 ท่านที่ล้วนแต่อยู่ในวัยเกษียณ มาคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์การย้ายกลับประเทศไทย
ฉันพบว่ามีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่มีความคิดว่าจะย้ายกลับไทยในบั้นปลายชีวิต
ลองมาฟังกันดูค่ะว่า พี่ๆ ที่ล่วงหน้าไปก่อนเจอะเจออะไรกันบ้าง? มีอะไรให้เราได้เรียนรู้ก่อนที่จะถึงคราวของเรา
…….
อันดับแรก พี่ทุกท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อย่าย้ายตามอารมณ์” โดยไม่เตรียมตัว ไม่ศึกษาหาข้อมูล
การย้ายประเทศเป็นเรื่องใหญ่ มีเรื่องต่างๆ มากมายที่ต้องพิจารณา บริหารจัดการ และเตรียมความพร้อมก่อนย้ายกลับ อย่าคิดเพียงแต่ว่าจะย้ายกลับ ขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มี แล้วก็ซื้อตั๋วเลย
เจ็บช้ำ ผิดหวัง ช็อค น้ำตาตกใน และต้องย้ายกลับมาอีกครั้ง ก็มีตัวอย่างให้เห็นเยอะค่ะ พี่ๆ บอก
………
ลำดับต่อมา พี่ๆ แนะนำว่า คนที่อาศัยอยู่ต่างประเทศนานแล้วและคิดจะย้ายกลับ ควร “ลอง” กลับไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศไทยสักช่วงหนึ่งก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะย้ายกลับจริงๆ
การที่เราย้ายมาอยู่ต่างประเทศนานแล้ว ทำให้เราซึมซับวัฒนธรรมของประเทศที่เราอยู่เข้าไปด้วย พี่ๆ แทบทุกคนบอกว่า ตนเองกลายเป็นคนที่พูดตรงมากตามสไตล์เยอรมัน
เมื่อกลับเมืองไทย แม้จะไปเที่ยวเพียงระยะสั้นๆ ก็ยังรู้สึกว่า ความตรงดังกล่าว (พูดเลย ไม่เก็บไว้ในใจ) อาจทำให้มีปัญหาในการเข้าสังคมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว คนในครอบครัวที่ไทย ที่ไม่คุ้นชินกับความตรงแบบนี้
ไม่นับว่าจะเจอกับ Reverse Culture Shock – ความไม่คุ้นชินกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของตนเองในด้านอื่นๆ อีก เพราะย้ายไปอยู่ต่างประเทศนาน
ทุกท่านแนะนำว่า ควร “ทดลอง” กลับไปอยู่ก่อนสัก 3-4 เดือน เป็นต้น จะได้พิจารณาจากประสบการณ์จริงว่า อยู่ได้หรือเปล่า? ชอบแน่หรือเปล่า?
แล้วค่อยตัดสินใจ
………..
นอกจากความรู้สึก/ประสบการณ์ตรงแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาด้วยยังมีอีกมากมาย อาทิ
1 เราจะอยู่ที่ไหน?
เราจะอยู่บ้าน? คอนโด? ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ใครเป็นเจ้าของบ้าน/คอนโดนั้น?
ถ้าเป็นบ้านของเรา (ชื่อเราเป็นเจ้าของ) เราจะย้ายกลับไปถาวร หรือจะย้ายแบบครึ่ง – ครึ่ง (อยู่ไทย 6 เดือน อยู่ต่างประเทศในราว 6 เดือน)
ถ้าย้ายแบบครึ่ง – ครึ่ง ใครจะเป็นคนดูแลบ้านของเราในช่วงที่เราไม่อยู่? เพราะทุกท่านทราบดีว่า บ้านที่ไม่มีคนอยู่/ไม่มีคนดูแลจะโทรมเร็วมาก
ถ้าเป็นบ้านของคนอื่น อาทิ ญาติพี่น้อง พวกเขารับได้จริงหรือกับการมีเรามาอยู่เพิ่มอีกหนึ่งชีวิต? เราตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านอย่างไร?
………..
2 เราจะต้องมีใช้เงินเท่าไรในแต่ละเดือน?
เรื่องค่าใช้จ่าย เป็นหัวใจสำคัญที่ทุกคนต้องสนใจ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายของแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับที่ๆ เราจะไปอยู่ (กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด, จะมีรถขับเอง หรือนั่งแท็กซี่/แกร๊บ ฯลฯ) และวิถีชีวิตของเรา
นอกจากค่ากิน ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้านแล้ว (ค่าเช่า, ค่าน้ำไฟ, ค่าอินเทอร์เน็ต, ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ) อย่าลืมว่าที่ประเทศไทย เรามี “ค่าใช้จ่ายทางสังคม” ด้วย จะมีงานแต่ง งานบวช งานกฐิน งานศพ และอีกสารพัดงานที่เราจะได้รับซอง ต้องเผื่อเงินไว้เพื่อการนี้ด้วย
และที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ “ค่าประกันสุขภาพ”
เพราะเราจะย้ายกลับในช่วงที่วัยโรยราแล้ว เป็นไปได้สูงมากว่า เราจะต้องเจอกับความเจ็บป่วย/เสื่อมถอยของร่างกาย ดังนั้น การมีประกันสุขภาพจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
โดยมากประกันสุขภาพที่เรามีอยู่ในต่างประเทศนั้น ไม่ได้ครอบคลุมกับการย้ายกลับไปอยู่ที่เมืองไทย ดังนั้น เราต้องหาซื้อใหม่ และแน่นอนว่า การซื้อประกันสุขภาพในช่วงสูงวัย จะมีค่าเบี้ยประกันชีวิตที่สูงมากด้วย (หลายหมื่นบาทต่อเดือน)
ศึกษาเรื่องนี้ให้ดีก่อนตัดสินใจย้ายกลับนะคะ
………
3 เอกสาร/สิทธิพำนักต่างๆ จะต้องทำอย่างไรบ้าง?
ข้อนี้แยกย่อยเป็นได้หลายส่วน
3.1 เอกสารส่วนตัวของตัวเรา เราเป็นคนไทย แต่บางท่านอาจจะดำเนินเรื่องขอสละสัญชาติไปแล้ว (ซึ่งต้องไปตามผลอีกว่าประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วหรือไม่ (มีผลบังคับใช้จริงแล้วหรือไม่)) หรือเอกสารหาย ไม่ได้ทำบัตรประชาชนมานาน ชื่อไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้าน ฯลฯ
หากมีปัญหาเหล่านี้ ควรจัดการให้เรียบร้อยก่อน
3.2 เอกสารส่วนตัวของเรา สำหรับที่ต่างประเทศ ไม่ว่าเราจะมีสัญชาติ หรือสิทธิพำนักถาวร/วีซ่ารูปแบบใดๆ ก็แล้วแต่ ต้องศึกษาไว้ว่าการรักษาสิทธิเหล่านี้จำต้องมีอะไรบ้าง? แต่ละประเทศมีข้อกำหนดไม่เหมือนกัน พึงรู้และรักษาสิทธิของตนเองไว้
เพราะในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง เราอาจไม่อยากอยู่เมืองไทยแล้ว จะย้ายกลับ แต่สิทธิพำนักของเราในต่างประเทศขาดเสียแล้ว ก็จะทำให้กลับไม่ได้นะคะ
3.3 เอกสารส่วนของคู่ชีวิตเราที่เป็นชาวต่างชาติ สิ่งนี้ก็ต้องศึกษาเช่นกัน
คู่สมรสชาวต่างชาติของคนไทยที่ประสงค์จะไปพำนักในประเทศไทย ต้องมีวีซ่าประเภท Non-O หรือ Non-Immigrant Visa “O” (Family)
หนึ่งในหลักฐานที่ต้องใช้ คือหลักฐานทางการเงิน โดยมีเงินฝากในบัญชีธนาคารของประเทศไทยไม่น้อยกว่า 400,000 อย่างน้อย 2 เดือน หรือมีเงินเดือนเฉลี่ยเดือนละ 40,000 บาท
สามารถดำเนินการขอวีซ่านี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่สถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ในประเทศที่ท่านพำนักอยู่ หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ค่ะ
เมื่อย้ายกลับไปแล้ว พี่ๆ ฝากบอกว่า สิ่งสำคัญมากๆ คือ พยายามหากลุ่มเพื่อนในวัยเดียวกัน และหากิจกรรมทำ จะได้ไม่เหงา มีอะไรทำ และรู้สึกตัวเองมีคุณค่า
………
ที่ฉันพบว่าน่าสนใจอีกอย่างก็คือ 4 ใน 5 ของพี่ซีเนียร์ที่มาคุยให้ฟัง ตัดสินใจว่า “ไม่ย้ายกลับ” ค่ะ
หลายท่านบอกว่า ไม่อยากย้ายกลับ เพราะลูกอยู่ที่นี่แล้ว กลับไปเมืองไทยก็ยิ่งห่างลูกไปอีก
บางคนบอกว่าเคยลองย้ายกลับไปอยู่ระยะยาว พบว่า อยู่ไม่ได้ เพราะความคิดไม่ใช่คนไทยไปเสียแล้ว
ที่เคยวาดฝันว่าจะได้ไปอยู่กับคนที่คุ้นเคย ทั้งญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เพื่อนๆ ย้ายไปอยู่ที่อื่นบ้าง เสียชีวิตแล้วบ้าง ถ้าย้ายกลับไป ก็ต้องอยู่คนเดียว ไม่มีเพื่อน
กลายเป็นว่า ย้ายกลับไปแล้วไม่มีความสุข กลับไปก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่หมดเลย
เมื่ออยู่ต่างประเทศกว่า 40 ปีแล้ว ก็เหมือนต้นไม้ที่หยั่งรากลึก การจะขุดรากถอนโคนกลับไปเมืองไทยอีกครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว…
………..
ต้องบอกว่าเป็นอีกครั้งที่ทำหน้าที่ moderator ด้วยรู้สึกคุ้มค่าทุกนาทีที่ได้ทำ ลงจากเวทีแล้วรู้สึกตัวเองเต็มอิ่มมากๆ ได้ความรู้ ประโยชน์ และมีสิ่งให้นำกลับมาคิดต่อมากมาย
การย้ายประเทศไม่ได้มีแค่ย้ายมาต่างประเทศอย่างเดียว เมื่อถึงอีกวัยหนึ่ง เราอาจคิดย้ายกลับไทย และทุกการย้ายประเทศ มีสิ่งที่ต้องเตรียมตัว เตรียมพร้อม พิจารณา เสมอ พี่ๆ มาชี้ทางบอกให้ว่าจะต้องเริ่มคิดเรื่องอะไรบ้าง เหมือนได้รับการ “เบิกเนตร” ยังไงยังงั้นเลยค่ะ
แล้วคุณล่ะคะ วางแผนไว้อย่างไรบ้าง?